Thursday, October 7, 2010

พลังดารา พลังสร้างสรรค์


ตอนที่ผมได้ยินคำว่า "พลังดารา" ใหม่ๆ เป็นช่วงที่องค์กรต่างๆ ของรัฐ นำดารามาช่วยรณรงค์ให้เกิดความเคลื่อนไหวในทางดี โดยว่ากันว่าดาราเพียงคนเดียวที่มีพลังโน้มน้าวมวลชนสูงๆ อาจทำเรื่องที่ต้องใช้คนทั้งกองทัพ หรือใช้งบประมาณของหน่วยงานใหญ่เป็นเวลาหลายปี ให้สำเร็จลุล่วงสมประสงค์ได้ภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน ในความเป็นจริง มีการประเมินผลกันอย่างไรผมไม่ทราบ แต่ที่ผมอาศัยความรู้สึกเอาล้วนๆ ก็คือพลังดาราอย่างเดียว ไม่พอจะก่อให้เกิดกระแสความเคลื่อนไหวที่รุนแรง หากเรื่องที่รณรงค์กันมันไม่โดนใจมวลชน หรือไม่ตรงกับคาแรกเตอร์ของดาราที่นำมาใช้
แต่หากทุกอย่างลงตัวขึ้นมา แม้บางคนที่ไม่ใช่ดารา ก็กลายเป็นดาวเด่นของสังคม และชี้นำให้เกิดสำนึกมวลชนพร้อมกันทั่วประเทศได้ในชั่วข้ามคืน ยกตัวอย่าง เช่น หมวดตี้ ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ ผู้ไม่เป็นที่รู้จักยามมีชีวิต แต่กลับเป็นที่จดจำไม่ลืมเมื่อเขาตาย เพราะคาแรกเตอร์ของหมวดตี้เหมือนพระเอกตัวจริง ทั้งสมาร์ท ทั้งรักความถูกต้อง ทั้งเสียสละ และคำพูดต่างๆ ของเขาในอดีต ที่แสดงถึงเจตจำนงเสียสละเพื่อรักษาความถูกต้อง ก็เป็นที่ได้ยินหลังสละชีพเพื่อชาติไปแล้ว เรียกว่า ผลงานเป็นที่รู้จักก่อนคำพูด ไม่ใช่ดีแต่พูดแล้วไม่มีผลงานตามที่พูด
ช่วงที่ข่าวหมวดตี้กำลังฮอตสุดขีดนั้น แรงบันดาลใจเกี่ยวกับความเสียสละพุ่งแรงมาก อย่างน้อยที่สุดเท่าที่ผมทราบ คือขวัญและกำลังใจของเหล่าทหารหาญซึ่งทำหน้าที่กัน ก็แข็งแกร่งเป็นปึกแผ่นกว่าช่วงก่อนหน้าอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะในแง่ที่สังคมพากันเทิดทูนน้ำใจ เห็นค่าความเสียสละของพวกเขากันมากมาย หมวดตี้จึงจัดเป็นประเภทที่มีพลังแบบเดียวกับดารา อาศัยชีวิตเขาคนเดียวสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านดีขึ้นมาได้ ทำภาพของความเสียสละให้ปรากฏแก่สำนึกของคนทั่วประเทศได้ จะเป็นช่วงสั้นหรือช่วงยาวก็ตาม
ข่าวฟิล์ม รัฐภูมิ ทำให้ผมรู้สึกเกี่ยวกับพลังดาราไปในหลายแง่ ผมไม่ได้มองแง่ดีหรือแง่ร้ายโดยเฉพาะ แต่มองว่าพลังดาราสามารถขับเคลื่อนสังคมได้จริง เพราะดูเหมือนวันนี้ไม่มีใครในประเทศไทยที่ไม่รู้เรื่องฟิล์ม แม้ขึ้นต้นมา อาจต้องเป็นไปด้วยความรู้สึกอยากด่า อยากทับถม หรืออยากกระทืบซ้ำก็ตาม
ถ้ามีหน่วยงานใดฉลาดใช้ประโยชน์จากกระแสที่ยังไม่ซา ผมคิดว่ากรณีของคุณฟิล์มอาจก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ เป็นต้นว่าหน่วยงานที่รณรงค์เกี่ยวกับปัญหาครอบครัว เราคงไม่ถึงกับต้องรณรงค์ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เช่น มารักนวลสงวนตัวจนถึงวันแต่งกันเถิด แต่เรารณรงค์ในสิ่งที่เป็นไปได้ เช่น มาป้องกันภาวการณ์ตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์กันเถิด
ถ้ารณรงค์สำเร็จก็ได้ชื่อว่าคุณป้องกันปัญหา ที่กำลังจะเกิดขึ้นใน ๙ เดือนข้างหน้าเป็นวงกว้างพอสมควรได้แล้ว! ช่วยกันชี้ให้เด็กรุ่นใหม่เห็น ว่าถึงโลกจะหมุนจี๋ไปถึงไหน ไม่แคร์เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนสักเพียงใด เมื่อเกิดเรื่องเกิดราว อย่างไรก็ต้องมีคนรับเคราะห์ มีคนเสียหน้า มีคนต้องอับอาย มีการด่าทอเอาผิดเอาถูก ซึ่งความจริงเป็นอย่างไรไม่สำคัญเท่าความรู้สึกแย่ที่เกิดขึ้นแน่ๆ นี่เป็นของคู่โลก ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
คนที่อยู่ในวัยหนุ่มวัยสาววันนี้ น่าจะกำลังตั้งอกตั้งใจฟังทีเดียวครับ ว่าผู้ใหญ่ที่มี "พลังเหมือนดารา" ท่านใด จะออกมาช่วยแนะแนวทาง ชี้ทิศเหมาะที่น่ารับฟัง เอาแบบที่มีเหตุผลเข้าใจง่าย และทำได้จริง ป้อนข้อมูลเป็นสาระอะไรมา พวกเขาและเธอพร้อมจะเงี่ยหูฟัง ไม่ดูเบากันหรอก อย่ามีแต่ผู้ใหญ่ที่ออกโรงมาเพียงเพื่อเกาะกระแส ด้วยการช่วยข้างใดข้างหนึ่ง เหยียบย่ำอีกข้างหนึ่งซ้ำกันอีกเลย คนเราลืมเสียงด่าที่ไร้แก่นสารได้ในเวลาไม่นาน แต่จะจดจำเสียงแนะที่ใช้ได้จริงตลอดไป และนั่น หมายความว่าชื่อของคุณจะถูกจารึกไว้ ตราบนานเท่านานในบ้านนี้เมืองนี้!
ที่มา: ดังตฤณ,ตุลาคม ๕๓ ธรรมะใกล้ตัวฉบับ Lite ฉบับวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๓, ภาพ: จากอินเตอร์เนต

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment