“แม่มองลูก ลูกมองแม่” “เศรษฐกิจ-หนี้สิน-ลูกเกเร” ปัญหาหนักอกของแม่ระบุ “ลูกเรียนจบ-เป็นคนดีมีคุณธรรม” คือความหวังสูงสุด
นิด้าโพลสำรวจพบ 3 สุดยอดปัญหาที่ผู้เป็นแม่หนักใจมากที่สุดได้แก่ เศรษฐกิจข้าวของแพง รองลงมาคือความประพฤติลูกเกเรไม่เชื่อฟัง ตามด้วย ปัญหาหนี้สิน การเงิน ชักหน้าไม่ถึงหลัง ส่วนเรื่องที่แม่คาดหวังในตัวลูกมากที่สุด คือ อยากให้ลูกสำเร็จการศึกษา รองลงมาอยากให้ลูกเป็นคนดีมีคุณธรรมไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน ฝั่งลูกส่วนใหญ่ระบุจะทำตนเป็นคนดีของสังคม ตั้งใจศึกษาจนจบตั้งใจทำงานเพื่อความก้าวหน้า และเป็นที่พึ่งของครอบครัว เพื่อสนองความคาดหวังของแม่ และจากการสอบถาม ความเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรม พบแม่ลูกเห็นพ้องว่า แม่ประพฤติเป็นแบบอย่างไม่ดี ทอดทิ้งบุตร ส่วนลูกก้าวราว ไม่เชื่อฟัง เกี่ยวข้องยาเสพติด และอบายมุข ติดเพื่อน เที่ยวเตร่ คือ สาเหตุของปัญหาสังคมในปัจจุบัน
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชน “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “แม่มองลูก ลูกมองแม่” ระหว่างวันที่ 8 -9 สิงหาคม 2554 จากประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ที่เป็นแม่ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปจำนวน 680 หน่วยตัวอย่าง และลูกที่มีอายุระหว่าง 14 – 25 ปี จำนวน 567 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกภูมิภาค ทุกระดับการศึกษา และกลุ่มอาชีพมีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานไม่เกินร้อยละ 3.76 ผลการสำรวจใน 5 ประเด็น คือ (1) ปัญหาหนักใจ หรือความไม่พึงพอใจในเรื่องต่างๆ ของ “แม่” และ “ลูก” (2) การหาวิธี
หรือ แนวทางแก้ไขปัญหาหนักใจต่างๆ เหล่านั้น ของ “แม่” และ “ลูก” (3) เรื่องที่ “แม่” คาดหวังต่อ “ลูก” มากที่สุด และสิ่งที่ “ลูก” จะปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้เป็น “แม่” (4) พฤติกรรมของ “แม่” ที่คิดว่าจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมมากที่สุด และ (5)พฤติกรรมของ “ลูก” ที่คิดว่าจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมมากที่สุด โดยมีผลสรุปดังนี้
ผลการสำรวจความคิดเห็นของแม่ จากผลการสำรวจความเห็นของแม่ “แม่มองลูก ลูกมองแม่” พบว่า ปัญหาหนักใจ ความไม่พึงพอใจต่างๆ ใน 3 ลำดับแรกของแม่ คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวของแพง มากที่สุด (ร้อยละ 18) รองลงมาเป็นปัญหาความประพฤติของบุตรหลาน เช่นไม่เชื่อฟัง เกเร เป็นต้น (ร้อยละ 13) และปัญหาหนี้สิน การเงิน รายจ่ายมากกว่ารายรับ (ร้อยละ 11) โดยเห็นว่าวิธีการแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนักใจต่างๆ ผลการสำรวจ ความต้องการใน 3 ลำดับแรก คือ ต้องการปรึกษาหารือ พูดคุย ระบายอารมณ์ ความเครียด มากที่สุด (ร้อยละ 27) รองลงมาเป็นความต้องการปรึกษากับคนในครอบครัว (ร้อยละ 19) และการประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างอย่างพอเพียง และขยันทำงานให้มากขึ้นจะได้มีรายได้เพิ่ม (ร้อยละ 15) ตามลำดับ
โดยในส่วนของความคาดหวังของแม่ที่มีต่อลูก พบว่า แม่ต้องการเห็นลูกประสบความสำเร็จด้านการศึกษามากที่สุด (ร้อยละ 41) รองลงมาเป็น แม่ต้องการให้ลูกเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่ทำให้สังคมเดือนร้อน (ร้อยละ 28) และอยากเห็นลูกประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน (ร้อยละ 10) ในขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็นของแม่ต่อความเห็นพฤติกรรมของแม่ที่คิดว่าเป็นปัญหาของสังคมมากที่สุด ใน 3 ลำดับแรก คือ แม่ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี (ต่อลูก) เช่น มีอาชีพทุจริต ติดการพนัน มากที่สุด (ร้อยละ 27) รองลงมาเป็นพฤติกรรมแม่ทิ้งลูก เนื่องจากแม่มีบุตรก่อนวัยอันควรหรือยังไม่พร้อม (ร้อยละ 20) และพฤติกรรมที่แม่ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง (ร้อยละ 15) โดยที่ความเห็นของแม่ต่อพฤติกรรมของลูกที่ทำให้เกิดปัญหาสังคมมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ มากที่สุด (ร้อยละ 37) รองลงมาเป็นพฤติกรรมที่ลูกยุ่งเกี่ยวหรือติดสิ่งเสพติด อบายมุข (ร้อยละ 25) และ พฤติกรรมของลูกที่ติดเพื่อน เที่ยวเตร่ (ร้อยละ 15) ตามลำดับ
ผลการสำรวจความคิดเห็นของลูก จากผลการสำรวจความเห็นของลูก “แม่มองลูก ลูกมองแม่” พบว่า ปัญหาหนักใจความไม่พึงพอใจต่างๆ ใน 3 ลำดับแรกของลูก คือ ปัญหาการศึกษาเล่าเรียน ปัญหาเรื่องเพื่อน ครู ที่โรงเรียน (ร้อยละ 11) เป็นปัญหาหนักใจมากที่สุด รองลงมาเป็นปัญหาเรื่องหนี้สิน การเงิน เช่น รายจ่ายมากกว่ารายรับ (ร้อยละ 10) และปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวของแพง (ร้อยละ 8) โดยที่มีความเห็นต่อวิธีการ แนวทางการแก้ไขปัญหาหนังใจต่างของลูกใน 3 ลำดับแรก พบว่า ต้องการปรึกษาหารือ พูดคุยระบายอารมณ์ ความเครียดมากที่สุด (ร้อยละ 16) รองลงมาต้องการปรึกษากับคนในครอบครัว (ร้อยละ 8) และปรึกษาเพื่อน (ร้อยละ 7) ตามลำดับ ส่วนสิ่งที่ลูกจะปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของแม่ ผลการสำรวจต่อการปฏิบัติตนเพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของแม่ 3 ลำดับแรก คือ ต้องเป็นคนดี มีคุณธรรม ไม่ทำให้สังคมเดือนร้อน (ร้อยละ 37) มากที่สุด รองลงมาเป็นการตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้เรียนจบการศึกษาในระดับสูงสุด (ร้อยละ 24) และการตั้งใจทำงานเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ (ร้อยละ 14) ตามลำดับ โดยที่ความเห็นต่อพฤติกรรมของแม่ที่คิดว่าจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมมากที่สุด ผลการสำรวจ 3 ลำดับแรก พบว่า ความคิดเห็นของลูก คือ แม่ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี เช่น อาชีพทุจริต ติดการพนัน (ร้อยละ 31) มากที่สุด รองลงมาเป็นพฤติกรรมแม่ทอดทิ้งลูก เนื่องจากมีบุตรก่อนวัยอันควร หรือยังไม่พร้อม (ร้อยละ 30) และแม่ไม่เลี้ยงลูกเองนำบุตรหลานให้ปู่ย่า ตา ยายเลี้ยง (ร้อยละ 11) ตามลำดับ ส่วนความเห็นต่อพฤติกรรมของลูกที่คิดว่าจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมมากที่สุด ผลการสำรวจพบว่า 3 ลำดับแรก คือ ลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่เชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่ (ร้อยละ 34) มากที่สุด รองลงมาเป็นลูก ยุ่งเกี่ยว หรือติด สิ่งเสพติด อบายมุข (ร้อยละ 33) และพฤติกรรมที่ลูกติดเพื่อน เที่ยวเตร่ (ร้อยละ 13) ตามลำดับ
ผลการสำรวจได้แสดงให้เห็นว่า ปัญหาที่เป็นปัญหาหนักในมากที่สุดของแม่ลูก เป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยทางออกทางแก้เสนอให้มีการพูดคุยปรึกษาหารือกันในครอบครัวรวมทั้งการประหยัดใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและหารายได้เสริม ในขณะที่ความคาดหวังแม่อยากให้ลูกเรียนจบเป็นคนดีของสังคมโดยที่ลูกเองก็คาดหวังต่อการเป็นคนดีของสังคมและการตั้งใจเรียนให้จบเช่นกัน โดยที่พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของแม่ลูกคือการที่แม่มีพฤติกรรมเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี มีอาชีพทุจริต ติดการพนัน และทอดทิ้งลูก ไม่ดูและลูกด้วยตนเอง โดยที่พฤติกรรมของลูกที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์ คือ พฤติกรรมก้าวร้าวต่อพ่อแม่ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน รวมทั้งการมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดและชอบเที่ยวเตร่
กล่าวได้ว่าปัญหาหลักๆ ของครอบครัวไทย และความสัมพันธ์แม่-ลูกมีปัญหาและห่างเหินกันมากขึ้นจากการที่เป็นครอบครัวเดี่ยวปัญหาเศรษฐกิจ ไม่มีเวลาให้กันและกัน ลูกขาดตัวอย่างที่ดี ไม่มีที่ปรึกษา นำพาไปสู่การคบเพื่อน เที่ยวเตร่และลงท้ายที่สิ่งเสพติด นับว่าเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับท้องที่ ท้องถิ่น และหน่วยงานรัฐส่วนกลางควรเห็นความสำคัญ และกำหนดแนวทางในการพัฒนาให้ครอบครัวอบอุ่น เข้มแข็งต่อไปให้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
ที่มาข้อมูล: นิด้าโพล, http://nidapoll.nida.ac.th/main/index.php/th/poll-new/nidapoll-2554/161-32-2554, ภาพ: อินเตอร์เน็ต
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment