สวนดุสิตโพล เผยว่า
คนไทยซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณเรื่องการพระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมากที่สุด ขณะที่เอแบคโพล
เผย วันพ่อแห่งชาติ ประชาชนอยากให้คนไทยรักกัน
ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน
หรือศูนย์วิจัยความสุขชุมชน เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง “บทบาทของพ่อ” และนโยบายสาธารณะด้านครอบครัวกับกลุ่มบุคคลที่ต้องปรับปรุงตัวเป็นคนดีของสังคมไทย
กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัดของประเทศ ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 3
ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา 5 อันดับแรกของบทบาทสำคัญที่ลูกและคนในครอบครัวอยากให้ผู้เป็นพ่อปฏิบัติ พบว่า
ระบุว่าคุณพ่อต้องพร้อมและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกและคนในครอบครัวมากที่สุด (ร้อยละ
84) รองลงมาระบุว่าพูดคุยและให้กำลังใจลูกและคนในครอบครัวเมื่อเกิดปัญหาขึ้น
(ร้อยละ 83) ระบุเป็นที่ปรึกษาที่ดีของลูกและคนในครอบครัวในทุกเรื่อง
(ร้อยละ 77) ระบุ
เคารพต่อการตัดสินใจของคนในครอบครัว (ร้อยละ 75) และ ระบุ
พร้อมและเป็นผู้ฟังที่ดีของลูกและคนในครอบครัว (ร้อยละ 75) ตามลำดับ
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลกับกลุ่มผู้เป็นแม่และลูกของครอบครัวที่มีปัญหา สิ่งที่อยากให้ผู้เป็นพ่อแก้ไขปรับปรุงตัวใน 5 อันดับแรก พบว่า การละเลิกการดื่มเหล้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดมากที่สุด (ร้อยละ 90) รองลงมาการขอให้เลิกสูบบุหรี่ เลิกสิ่งเสพติด (ร้อยละ 58) ขอให้เลิกพฤติกรรมรุนแรง ตบตี ดุด่าคนในครอบครัว (ร้อยละ 54) การขอให้เลิกเจ้าชู้ นอกใจภรรยา เลิกมีกิ๊ก (ร้อยละ 53) และการขอให้เลิกเป็นคนขี้เกียจ ไม่ยอมทำงาน (ร้อยละ 44) ตามลำดับ
ในประเด็นคำถามถึงสิ่งที่อยากให้คนไทยทำให้แก่กันและกันเพื่อถวายแด่ในหลวง
เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ พบว่า อันดับแรก (ร้อยละ 88) ระบุอยากให้คนไทยรักกัน
อันดับที่สอง ร้อยละ (82) อยากให้คนไทยมีน้ำใจต่อกัน
อันดับที่สาม (ร้อยละ 79) อยากให้คนไทยให้อภัยต่อกัน อันดับที่สี่
(ร้อยละ 77) อยากให้คนไทยเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว
อันดับที่ห้า (ร้อยละ 76) อยากให้คนไทยช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน
และรองๆ ลงไป ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ กตัญญูต่อแผ่นดิน
ยึดมั่นในความถูกต้อง และยิ้มให้แก่กันและกัน ตามลำดับ
โดยที่สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ในหัวข้อ วันพ่อแห่งชาติ จากการสอบถามความคิดเห็นของคนไทยทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,178 คน ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2554 สรุปผลได้ดังนี้
“พระมหากรุณาธิคุณที่ยิ่งใหญ่” ที่ประชาชนรู้สึกซาบซึ้ง
ประทับใจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พบว่า การพระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้กับประชาชนชาวไทยนำไปปฏิบัติมากที่สุด
(ร้อยละ 60) รองลงมาการพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์
ถุงยังชีพ ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่อาสาช่วยเหลือราษฎร (ร้อยละ 21) และการพระราชทานแนวคิดเรื่องการบริหารจัดการน้ำและการเกษตร/โครงการฝนหลวง
สร้างเขื่อนและโครงการแก้มลิง (ร้อยละ 19)
ผลการสำรวจสิ่งที่ประชาชน “อยากทำ” เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันที่ 5 ธันวา พบว่า การปฏิบัติตนเป็นคนดี ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง บำเพ็ญประโยชน์ ช่วยเหลือสังคม มากที่สุด (ร้อยละ 78) รอลงมาเป็นการปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ไหว้พระ ขอพรให้พระองค์ท่านทรงพระเจริญ (ร้อยละ 12) และการเป็นผู้เล่า บอกต่อถึงพระราชกรณียกิจ พระราชจริยวัตรของพระองค์ท่านให้คนรุ่นหลังหรือชาวต่างชาติรับรู้ (ร้อยละ 10) ตามลำดับ
ในขณะที่กิจกรรมที่ประชาชน “อยากจะเข้าร่วม” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันที่ 5 ธันวา พบว่า ต้องเข้าร่วมการจุดเทียนชัยถวายพระพร ร่วมร้องเพลงถวายพระพร มากที่สุด (ร้อยละ 61) รอลงมาเป็นการบริจาคโลหิต บริจาคทรัพย์สิน สิ่งของ เงินทอง ให้กับมูลนิธิต่างๆ ของพระองค์ท่าน (ร้อยละ 23) และการร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนจัดขึ้น เช่น ทำบุญตักบาตร เดิน-วิ่งการกุศล ปลูกป่า ฯลฯ (ร้อยละ 16) ตามลำดับ
ประเด็นคำถามเรื่องที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงไม่สบายพระทัย และอยากให้ทุกฝ่ายปรับปรุงแก้ไข ผลการสำรวจ พบว่า ความไม่สามัคคี การทะเลาะเบาะแว้งของคนไทย มากที่สุด (ร้อยละ73) และเสนอวิธีแก้ไข คือ ให้ใจเย็น มีสติ ถอยคนละก้าว นึกถึงความเป็นคนไทยและเห็นแก่ความสงบสุขของบ้านเมืองฯลฯ รองลงมาการบริหารจัดการเรื่องน้ำท่วม (ร้อยละ 11) ไดระบุวิธีแก้ไข โดยขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือร่วมใจ ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมืองเป็นสำคัญ การวางแผนในระยะยาวฯลฯ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม (ร้อยละ 10) ระบุวิธีแก้ไข คือ มีกฎหมายที่เข้มงวด จนท.เคร่งครัด การรณรงค์ ปลูกฝังให้ทุกคนมีจิตสำนึกและช่วยกันดูแลรักษาฯลฯ และการโกงกิน ทุจริต คอรัปชั่น (ร้อยละ 6) โดยได้ระบุวิธีแก้ไข คือให้มีบทลงโทษที่เด็ดขาด ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตั้งแต่วัยเยาว์ ยึดหลักพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ ฯลฯ
ผลการสำรวจต่อประเด็นคำถาม กรณี “วันพ่อ” ของลูกๆ ทุกคน ลูกๆอยากจะทำอะไรให้พ่อ ผลการสำรวจพบว่า อยากให้พ่อปฏิบัติตัวเป็นลูกที่ดี กตัญญู มากที่สุด (ร้อยละ 59) รองลงมา การพาไปเที่ยว ทานข้าวด้วยกันในครอบครัว (ร้อยละ 21) การซื้อของขวัญ หรือของที่พ่ออยากได้ ให้เงิน (ร้อยละ 15) และการกลับบ้านมาไหว้พ่อ (ร้อยละ 6) ตามลำดับ
และต่อประเด็นคำถามในสิ่งที่ลูกเป็นห่วงหรืออยากขอร้องให้พ่อเลิก ผลการสำรวจ พบว่า เป็นห่วงอยากให้เลิกเรื่องสุขภาพ สิ่งที่บั่นทอนสุขภาพ มากที่สุด (ร้อยละ 54) รองลงมาการทำงานหนัก ขาดการพักผ่อน (ร้อยละ 21) การเลิกเหล้า บุหรี่ อบายมุขต่างๆ (ร้อยละ 17) และอยากให้เลิกการมีอารมณ์ร้อน หงุดหงิด ขี้โมโห คิดมาก ใจน้อย (ร้อยละ 8) ตามลำดับ
สรุปได้ว่าลูกส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่ารักและเป็นห่วงพ่อ
อยากให้พ่อเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ ให้รักษาสุขภาพให้ดี
และเป็นพ่อที่อารมณ์ดีไม่หงุดหงิดขี้โมโห
ที่มา: สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และเอแบคโพล ภาพ: อินเตอร์เน็ต
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment