Wednesday, October 21, 2009

เล่าเรื่องคนติดเหล้า

เป็นเรื่องของคนติดเหล้าจริง ๆ ที่เราต้องให้การดูแลจนที่สุด ก็ต้องส่งไปสู่เชิงตระกอน ชายวัยกลางค่อนข้างปลาย รูปร่างสูงใหญ่ เคล้าโครงเป็นคนหน้าตาดี แต่ตอนที่มาอยู่กะเราอยู่ในสภาพ อิดโรย เนื้อตัวมอมพอควร เมื่อได้ลอกคราบให้ดูดีสะอาดสะอ้านขึ้น ก็ได้มีโอกาส พูดคุยซักถามว่าเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงต้องเป็นคนเร่ร่อนไม่มีที่อยู่ และป่วยเป็นโรคอะไรหรือเปล่า ปรากฏว่า
ชายคนนี้เป็นคนต่างถิ่นมา มีถิ่นที่อยู่ ในจังหวัดภาคเหนือ มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง มีฐานะค่อนข้างดี มีครอบครัวอบอุ่น ลูก 2 คน ชาย 1 หญิง 1 แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจเมื่ออดีตที่ทำลายผู้คนมามากมาย เธอก็โดนภาวะนี้ด้วย ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่ได้การยอมรับ จนที่สุดออกจากบ้านมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ หวังจะมาหางานทำ ก็ไม่มีอะไรให้ทำ หรือรับไม่ได้กับงานที่จะทำไม่แน่ใจ จึงกลายเป็นคนเร่ร่อน เก็บของเก่าบ้าง ขยะบ้าง ขายพอประทังชีวิตกันไปวันๆ ไม่มีการติดต่อกับลูก ภรรยา ทั้งๆที่มีเบอร์โทรศัพท์ของลูกอยู่ในกระเป๋าตังค์เก่า ๆ
เธอมาอยู่กะเรา ในสภาพพุงโล ตัวเหลือง เหนื่อยหอบง่ายกว่าจะเดินมาหาเราแต่ละครึ่ง ต้องไปรับกัน ครึ่งทาง เจรจากันพอรู้เรื่องเข้าใจแล้วว่าจะส่งไปรับการรักษานะ เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ทำการรักษาอยู่ประมาณเดือนเศษ เมื่อเห็นว่าอาการทั้งหลายก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เหตุเพราะเป็นคนไทยที่ไม่มีบัตรประชาชน จึงพกใบเหลืองอยู่ คิดดูแล้วกันรุ่นไหน ที่ทำบัตรประชาชนแล้วได้ใบเหลืองมาถือแทนก่อนได้บัตรจริงนะ ประกอบกับอาการค่อนข้างหนักแล้วเมื่อมาถึงมือเรา พยายามลองถามว่าจะให้บอกครอบครัวมั้ย เธอยืนกรานไม่ให้บอกเพราะศักดิ์ศรี ฉันยากจนแล้วเขาไม่ให้อยู่ ฉันก็จะไม่รบกวนเขาอีก เธอติดเหล้ามาเป็นเวลานานแล้ว และก็กินแต่เหล้าอาหารทีจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายก็คงไม่ได้ลิ้มมานาน วาระเกือบจะสุดท้ายได้พยายามสอบถาม ลุงจันทร์เพื่อนที่เคยอาศัยพักอยู่ ว่าเค้ายังมีญาติอยู่มั้ย ที่สุดได้รู้ว่าครอบครัวอยู่ลำปาง เมื่อไม่มีงานทำ ก็เลยอยู่ไม่ได้และไม่มีการเหลียวแลกันเลย เกลียกล่อมอยู่นานว่าควรจะต้องให้ลูกรู้ว่าเราอยู่ไหน เป็นหน้าที่ของลูกต้องให้การดูแลคนเป็นพ่อในภาวะทุกข์ยาก เช่นนี้ ส่วนเมียจะสนใจหรือไม่ช่างเค้า ที่สุดยอมให้ชื่อลูกและเบอร์โทรศัพท์มา ได้โทรคุยกะลูกว่าทำงานอยู่ที่ไหน เล่าให้ฟังว่าเราเป็นใครอยู่ไหน ได้ดูแลพ่ออยู่นะ อย่างไรก็หาเวลาไปเยี่ยมพ่อด้วย ได้ผลนะ ด้วยมธุรสวาจา ก็ไม่ปานลูกชาย ไปหาพ่อคืนนั้นเลย แต่ด้วยสถานที่บุคคลที่เราดูแลอยู่ ไม่สามารถให้พบได้ในยามวิกาล ลูกเธอเลยไปเยี่ยมใหม่ รู้สึกว่าจะพาน้องสาวมาด้วย เมื่อเห็นสภาพพ่อแล้วก็บอกว่าไม่สามารถดูแลพ่อเองได้ก็ไม่ว่ากัน ทำงานเป็นลูกจ้างเค้าจะทำไงได้ก็บอกเพียงว่า มีเวลาก็ไปหาพ่อบ่อยๆนะ พ่อเหลือเวลาไม่นานแล้ว ลูกชายเลยฝาก สตางค์ให้คนช่วยดูแลพ่อเธอ ซึ่งเป็นผู้รับการสงเคราะห์ด้วยกัน ก็ดีนะเป็นสินน้ำใจให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถึงเธอจะไม่ให้ เค้าก็ดูแลให้อยู่แล้ว
หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ อาการแย่มากแล้วหมอไม่รับแล้ว จึงได้โทรไปสอบถามให้ลูกชายว่าถ้าพ่อเสีนชีวิตจะให้ทำอย่างไร ลูกชายบอกให้ถามแม่ เราต้องโทรไปลำปางหาลูกสาว ลูกสาวบอกว่าต้องรอถามแม่ก่อน วันนั้นเป็นวันศุกร์จำได้ ถ้าเป็นเหตุวันเสาร์-อาทิตย์เจ้าหน้าที่จะเหนื่อยเลย ต้องทำงานรอไว้ และแล้วเป็นไปตามที่คาด วันเสาร์เธอก็ลาโลกแล้ว โทรแจ้งไปยังครอบครัว บอกให้เราจัดการให้เลย (อดีต)ภรรยาพากันเหมารถตู้มาที่สถานสงเคราะห์ค่ะ เธอขอใบมรณะบัตรเท่านั้น เจ้าหน้าที่บอกว่าตอนกลับลำปางก็แวะไปเผาเค้าหน่อยสิ อยู่ที่สุสานสันกู่เหล็ก ซึ่งเป็นทางผ่าน แต่เธอไม่ยอมไปยังมีอารมณ์โกรธอยู่มั้ง ส่วนญาติๆที่มาด้วยก็ว่าต้องไป ที่สุดไม่ได้ทราบว่าเธอไปแวะเผาเค้าคนติดเหล้าคนนี้มั้ยที่แน่ๆเธอได้ใบมรณะบัตรไปขึ้นเงินได้แล้วค่ะ นี้แหละคนจน ตายอย่างคนจน แล้วจะเล่าเรื่องคนติดเหล้าในโอกาสต่อไป
ป้าเยา.....นักสังคมสงเคราะห์

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment